หากจักรยานคันเก่งของคุณติดตั้งชุดขับเคลื่อนของ SRAM AXS นั่นหมายความว่าคุณจะมีแบตเตอรี่แบบชาร์จได้อย่างน้อยหนึ่งก้อนอยู่บนรถ ซึ่งทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับส่วนประกอบ AXS ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง และแบตก้อนเล็กกระทัดรัดนี้ ยังสามารถนำมาสลับใช้ทดแทนกันได้ในกรณีที่แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งหมดลง ไม่ว่าจะเป็นตีนผี สับจาน หลักอาน Reverb (หลักอานแบบยืด-หดได้) หรือแม้กระทั่งระบบกันสะเทือนของ Flight Attendant เพราะอุปกรณ์ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ใช้แบตเตอรี่รุ่นเดียวกันทั้งหมด และแบตเตอรี่ก็สามารถชาร์จเต็มได้ภายในหนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น
----------------------------
ด้วยน้ำหนักเพียง 24 กรัม แบตเตอรี่ AXS จึงมีน้ำหนักเบากว่าเจลให้พลังงานในกระเป๋าหลังเสื้อของคุณซะอีก มาถึงตรงนี้คุณคงเกิดคำถามขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไม๊ครับว่า แล้วอย่างงี้คุณควรจะต้องพกเป็นอะไหล่ติดตัวไปด้วยไหม? เอาแบตเตอรี่ขึ้นบนเครื่องบินไปกับคุณได้รึเปล่า? แล้วแบตเตอรี่ในชิฟเตอร์และพาวเวอร์มิเตอร์ล่ะ? วันนี้เรามีคำตอบให้กับทุกคำถามเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของคุณครับ เรื่องของแบตเตอรี่นี้ เราจะแบ่งเป็นหลาย Ep นะครับ เพราะมีรายละเอียดที่น่ารู้เยอะมาก คอยติดตามกันครับ
“อะไรคือพลาสติกสีแดงในตำนาน?”
----------------------------
เมื่อคุณซื้อจักรยานคันใหม่ หรือซื้อชุดขับเคลื่อน AXS ทางร้านจะต้องมอบชิ้นส่วนพลาสติกสีแดงตามจำนวนของอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ AXS มาให้กับคุณด้วย 2 ชิ้นต่อหนึ่งอุปกรณ์ อย่างเช่นถ้ารถ Gravel ของคุณเเป็นแบบใช้จานหน้าใบเดียว นั่นหมายถึงคุณใช้แค่ตีนผี SRAM AXS คุณก็จะได้รับเจ้าพลาสติกสีแดงนี้จำนวน 2 ชิ้นที่หน้าตาไม่เหมือนกันกลับไปด้วย ซึ่งเมื่อกลับถึงบ้าน แอดมินเชื่อว่าหลายๆท่านก็คงจะโยนมันลงในถังขยะ หรือไม่ก็เก็บลืมเอาไว้ที่ไหนซักที่ในบ้าน (ซึ่งพอจะหา ก็หาไม่เจอซะแล้ว) นี่แหละครับ ทำไมผมถึงได้เรียกเจ้านี่ว่า “พลาสติกสีแดงในตำนาน” เพราะที่จริงแล้ว เจ้าชิ้นส่วนเล็กๆนี้ มีความสำคัญอย่างมาก (เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนูช่วยราชสีห์เลยทีเดียวเชียว) เพราะเค้าคือฝาปิดขั้วแบตเตอรี่และบล็อคแบตเตอรี่ เมื่อคุณถอดแบตเตอรี่สำหรับจัดเก็บ ทำความสะอาดจักรยาน หรือเดินทาง คุณจะต้องใช้ทั้งสองอย่างนี้ติดตั้งไว้ที่ตัวแบตเตอรี่และอุปกรณ์ AXS ตัวนั้นเสมอ เจ้าสองชิ้นนี้จะช่วยปกป้องและรักษาแบตเตอรี่และอุปกรณ์ AXS ของคุณเมื่อไม่ได้ใช้งาน แล้วชิ้นไหนมันใช้ทำอะไรยังไงบ้างล่ะ?
----------------------------
เจ้าชิ้นสีแดงที่เรียกว่า Battery Block เค้ามีไว้สำหรับใส่ไว้ที่ตัวตีนผี สับจาน หรือหลักอาน Reverb ตอนที่เราถอดแบตเตอรี่ออกครับ ส่วนเจ้าชิ้นที่มีชื่อว่า Battery Cover เค้ามีไว้สำหรับใส่กับตัวแบตเตอรี่หลังจากถอดออกมาแล้ว เพื่อป้องกันขั้วแบตเตอรี่ถูกกระแทกเสียหาย ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเค้ามีตัวบิดเล็กๆอยู่ นั่นก็เพื่อให้เราสามารถตั้งได้ว่าแบตเตอรี่ก้อนนี้มีแบตเต็มอยู่พร้อมใช้งาน หรือว่าแบตหมดและต้องเตรียมนำไปชาร์จไฟครับ
“แล้วตอนล้างรถล่ะ?”
ก่อนที่จะมาพูดถึงประโยชน์ของเจ้า battery covers และ battery blocks เรามาคุยเรื่องการล้างจักรยานกันก่อนนะครับ เพราะถึงแม้คุณจะมั่นใจได้ว่าระบบชุดขับเคลื่อน AXS ของคุณกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็อาจจะมีนักจักรยานหลายๆท่านที่ดูแลบำรุงรักษาจักรยานด้วยตัวเอง โดยยังชินกับการล้างจักรยานด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงอยู่ (หรือน้ำยาครอบจักรวาล) ด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยสลายคราบน้ำมัน จารบี หรือสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นให้ออกได้ง่าย แต่หารู้ไม่ว่า นั่นอาจทำให้ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ของคุณเสียหายได้ไม่ว่าจะด้วยความแรงของแรงดันน้ำที่มากเกินความจำเป็น ที่อาจไปทำให้ชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนเสียหาย (ถึงแม้ว่าจะทำมาให้ทนทานต้อการใช้งานตามปกติก็ตาม) หรือสารเคมีบางตัวที่มีฤทธิ์การกัดกร่อนสูง ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อใช้งานสำหรับล้างจักรยานโดยตรง ซึ่งในบางครั้งมีผลต่อสี เนื้อพลาสติก ไปจนถึงหน้าสัมผัสของชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ต่างๆให้เกิดความเสียหายได้ (ถ้าโชคไม่ดีจริงๆ)
-----------------------------
ดังนั้นวิธีการล้างจักรยานที่ดีและง่ายที่สุดก็คือ การล้างจักรยานโดยใช้แรงดันน้ำจากสายยางตามปกติร่วมกับใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนแรงจนเกินไป แล้วทำการล้างทั้งๆที่มีแบตติดตั้งอยูไปแบบนั้นเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง วิธีที่ดีที่สุดก็คือการถอดแบตออกแล้วติดตั้งเจ้าพลาสติกสีแดงในตำนานนี้กลับเข้าไป เท่านี้คุณก็สามารถทำการล้างจักรยานคันเก่งได้อย่างไม่ต้องมีความกังวลใดๆแล้วครับ ไหนๆเค้าก็มีมาให้แล้ว ใช้เถอะครับ
-----------------------------
ทริคเล็กๆในการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจักรยาน :
เพราะจักรยานที่เราซื้อมา ราคาบางคันก็ไม่ใช่น้อยๆ คุณควรแยกประเภทของน้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะกับการทำความสะอาดในแต่ละจุดเช่น น้ำยาล้างโซ่ควรใช้กับโซ่ เฟือง จานหน้าเท่านั้น (ถ้าจะให้ไม่เลอะเทอะก็ลงทุนกับกล่องล้างโซ่อีกซักหน่อย โซ่ก็จะสะอาดวิบวับแบบมือคุณก็ยังคลีนๆ) ส่วนตัวเฟรม ล้อ ยาง และชิ้นส่วนที่เหลือ คุณอาจจะใช้แชมพูล้างรถหรือสเปรย์ทำความสะอาดจักรยานทำการล้างแล้วราดน้ำตามให้สะอาด จากนั้นก็อย่าลืมใช้ลมเป่า (ถ้ามีปั๊มลม) หรือเช็ดให้แห้งแล้วรีบหยอดน้ำมันโซ่ เท่านี้ก็เป็นที่เรียบร้อยครับ
"แล้วต้องถอดแบตเตอรี่ออกตอนไหนบ้าง?"
คุณอาจเคยได้ยินจากคนที่ใช้ชุดขับเคลื่อน Sram AXS มาบ้างว่า “แบตหมดเร็ว” บ้าง “จอดจักรยานไว้ที่บ้านเฉยๆ พอมากดเกียร์แล้วเกียร์ไม่ทำงาน” บ้าง อันที่จริงทั้งหมดนี้มันมีเหตูผลครับ ไม่ว่าคุณจะเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถยนต์ (หากเดินทางไกลแบบข้ามหลายจังหวัด) การถอดแบตเตอรี่ออกระหว่างการเดินทางจะช่วยป้องกันแบตเตอรี่หมดได้ ยิ่งเดินทางนานก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น สาเหตุเพราะชุดขับเคลื่อน AXS ของคุณเป็นระบบการทำงานแบบไร้สายทั้งระบบ อุปกรณ์แต่ละชิ้นอย่างเช่นตีนผี สับจานหน้า และหลักอาน Reverb ต่างก็ทำงานแยกกันแบบ Stand alone ซึ่งแต่ละตัวมีแบตเตอรี่แบบ rechargable ของตัวเองเป็นตัวส่งกำลังไฟในการทำงาน ไม่ใช่การต่อสายของอุปกรณ์ทั้งหมดเข้ามาที่แบตเพื่อให้มีไฟหล่อเลี้ยง (อันนี้ไม่รวมถึงมือเกียร์กับพาวเวอร์มิเตอร์นะครับ อันนั้นใช้แบตเตอรี่ CR2032 หรือแบตเตอรี่ลิเธียม AAA)
----------------------------
ทีนี้ ทาง Sram เค้าเลยพัฒนา motion sensor แล้วติดตั้งไว้ในอุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อให้ระบบสามารถจับได้ว่า เมื่อไม่มีการใช้งาน หรือจักรยานไม่มีการขยับเขยื้อนในระยะเวลาหนึ่ง อุปกรณ์ทั้งหมดจะถูกทำให้หลับ (เข้าสู่ sleep mode) เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน และจะตื่นขึ้น (wake up) เพียงแค่เรามีการจับ เขย่า มีแรงสั่นสะเทือน หรือเริ่มเข็นรถออกไปเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร ก็จะสามารถใช้งานได้ทันทีซึ่งถือว่าตอบสนองเร็วมาก (ประมาณว่าจอดกินกาแฟ พอจะปั่นต่อก็แค่เดินมาจับที่รถ เกียร์ก็ใช้งานต่อได้แล้ว) ฉะนั้นเมื่อคุณบรรทุกจักรยานใส่รถ ใส่กล่องขึ้นเครื่องบิน เอาไว้บนแร็คหลังคา แล้วเดินทางไปไกลๆทั้งที่มีแบตติดตั้งอยู่ (แต่ถ้าเดินทางแค่ 30-45 นาที หรือจากบ้านชานเมืองไปสกายเลน ไม่ต้องถอดแบตนะครับ) ก็เท่ากับว่าระบบการทำงานของ AXS จะถูกทำให้ตื่นไปตลอดทาง เพื่อให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นส่งสัญญาณหากันอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับตอนที่คุณปั่นจักรยานอยู่ ก็จะเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดเร็วนั่นเอง ฉะนั้น แนะนำให้คุณถอดแบตแล้วนำเจ้า “พลาสติกสีแดงในตำนาน” ติดตั้งไว้ที่แบตและตัวอุปกรณ์ในขณะเดินทางไกลจะดีที่สุดครับ
----------------------------
ทริคสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน:
เนื่องจากการนำจักรยานเดินทางไปกับท่านโดยเครื่องบิน ในบางครั้งบางกรณี บางสายการบิน การแยกแบตเตอรี่เก็บต่างหากในกระเป๋าสัมภาระ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเครื่องตรวจ ท่านอาจใช้วิธีการติดตั้งแบตเตอรี่เข้ากับตัวอุปกรณ์บนจักรยานของท่าน ซึ่งจะถือว่าเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของจักรยานท่านแล้วแพคลงกล่องหรือกระเป๋าใส่จักรยานไปเลยก็จะเป็นการเซฟกว่า แต่ก็อย่าลืมเอาแท่นชาร์จแพคใส่กระเป๋าไปด้วยนะครับ
“จำเป็นต้องพกแบตสำรองไปด้วยไหม?”
จริงอยู่ ที่เราคุณไม่สามารถคำนวณได้อย่างชัดเจนว่าแบตเตอรี่ก้อนที่เราใช้อยู่นั้น มีกำลังไฟเหลืออยู่เป็นตัวเลขเป๊ะๆเท่าไหร่ แต่หากคุณจำสัญลักษณ์ของสัญญาณไฟกระพริบเตือนสถานะของแบตได้ (มีอธิบายอยู่ใน “รู้จักกับ SRAM EAGLE TRANSMISSION ให้ลึกขึ้นอีกนิด Ep. 1” ครับ) คุณก็จะพอทราบว่าชุดขับเคลื่อนที่อยู่บนจักรยานของคุณนั้น แบตตัวไหนใกล้หมด แต่วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็คือ การใช้เจ้า AXS App บนโทรศัพท์มือถือทำการเชื่อมต่อเข้ากับชุดขับเคลื่อนของคุณ เพียงเท่านี้ข้อมูลต่างๆก็จะแสดงบนหน้าจอเป็นตัวเลข เพื่อให้คุณได้ทราบและนำแบตก้อนที่ใกล้หมด ไปทำการชาร์จเสียก่อน จะได้ไม่พลาดนำรถออกไปปั่นออกทริปทั้งๆที่มีแบตเหลือเพียงแค่ปริ่มๆให้ต้องลุ้นกันไปตลอดเส้นทางไงล่ะครับ
---------------------------------
แล้วแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ตามอุปกรณ์ต่างๆจะแบตหมดพร้อมกันหรือไม่? คำตอบคือมีโอกาสน้อยมากครับ และนี่ถือเป็นข้อดีของชุดขับเคลื่อนแบบไร้สายที่อุปกรณ์ทุกชิ้นต่างก็มีแบตเตอรี่เป็นของตัวเอง และใช้แบตเตอรี่แบบเดียวกันทั้งหมด (มือเกียร์กับพาวเวอร์มิเตอร์) เพราะถ้าเกิดว่ากำลังไฟของแบตเตอรี่ก้อนไหนหมดก่อน คุณก็สามารถถอดเอาแบตจากอุปกรณ์ที่ใช้ไฟหรือใช้งานน้อยกว่า มาใส่ทดแทนกันได้เพื่อให้ปั่นได้จบทริป ส่วนอุปกรณ์ชิ้นไหนที่ใช้กำลังไฟมากหรือน้อย เราสามารถประมาณการระยะเวลาการใช้งานแบบคร่าวๆได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้ครับ (เป็นชั่วโมงการใช้งานนะครับ ไม่ใช่ชั่วโมงตามเวลานาฬิกา)
---------------------------------
ตีนผีเสือหมอบ : ใช้งานได้ 60 ชั่วโมง
ตีนผี MTB : ใช้งานได้ 25 ชั่วโมง
หลักอาน Reverb : ใช้งานได้ 60 ชั่วโมง
ระบบกันสะเทือน : ใช้งานได้ 20-35 ชั่วโมง
---------------------------------
สำหรับเจ้าแบตเตอรี่ AXS ก้อนเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาลแบบนี้ สามารถใช้งานได้นานเลยล่ะครับ แต่ถ้าให้ผมแนะนำแล้ว หากการพกเจ้าแบตสำรองก้อนจิ๋วนี้ไว้ซักก้อนในกระเป๋าหลังเสื้อ กระเป๋าใต้อาน หรือกระเป๋าใส่เจลให้พลังาน ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากจนเกินไป การพกแบตเพิ่มอีกซักก้อน มันก็อุ่นใจกว่าการที่ต้องไปลุ้นเอากลางทางไม่ใช่หรือครับ...น้ำหนักก้อนนึงเพียงแค่ 24 กรัมเท่านั้นเอง
"จำเป็นต้องยึดติดกับแบตเตอรี่แบรนด์ SRAM หรือไม่?"
คุณอาจเคยเห็นแบตเตอรี่ทางเลือกทั่วไปที่ราคาไม่แพงและดึงดูดใจทางหน้าร้านออนไลน์ แต่เราสามารถการันตีได้เลยว่านั่นไม่คุ้มกับความเสี่ยง แบตเตอรี่และเครื่องชาร์จที่ไม่ใช่ของแท้เหล่านี้ไม่ตรงตามมาตรฐานประสิทธิภาพของ SRAM ทั้งในด้านความจุ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ เพราะอะไหล่ SRAM ของแท้นั้นได้รับการออกแบบและทดสอบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดเป็นสำคัญ หากคุณเลี่ยงการใช้ของเทียม ของทดแทน หรือของสำเนาได้จะเป็นการดีที่สุดครับ และที่สำคัญคือจะทำให้การรับประกันของ SRAM เป็นโมฆะ
---------------------------------
“แล้ววิธีชาร์จที่ดีที่สุดคือวิธีไหนล่ะ?”
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ SRAM AXS ของคุณจะมาพร้อมกับสาย USB หากคุณใช้อะแดปเตอร์ AC แบบต่อเข้ากับ USB คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีกำลังจ่ายไฟขั้นต่ำ 1A ที่ 5 โวลท์ หรือหากคุณเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอร์ตชาร์จของคอมพิวเตอร์คุณเป็นแบบ USB 3.0 หรือรุ่นใหม่กว่า
---------------------------------
เมื่อแบตเตอรี่ของคุณได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องในแท่นชาร์จ และมีไฟสถานะ LED สีเหลืองสว่างขึ้น แสดงว่าแบตเตอรี่ของคุณกำลังถูกชาร์จ และไฟสถานะจะเปลี่ยนเป็นเป็นสีเขียวเมื่อแบตเต็ม ซึ่งการชาร์จจากแบตเตอรี่ที่หมดหรือเกือบหมดกำลังไฟจนถึงแบตเต็มจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
"สามารถชาร์จแบตเตอรี่หลายก้อนพร้อมกันได้หรือไม่"
เมื่อตอนที่ Sram ได้เปิดตัวชุดขับเคลื่อนที่เป็นระบบ AXS ตอนแรกๆจะมาพร้อมกับที่ชาร์จซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ครั้งละ 1 ก้อน แต่ตอนนี้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึงครั้งละ 4 ก้อนในคราวเดียวกันด้วยแท่นชาร์จแบบใหม่ที่เรียกว่า Four Battery Charger ซึ่งเป็นหัวชาร์จแบบ USB-C ด้วยเหตุผลที่ว่า ในจักรยานบางคัน มีจุดที่ต้องใช้แบตเตอรี่ AXS มากถึง 4 จุดอย่างเช่นจักรยานเมาเท่นไบค์ที่ใส่อุปกรณืแบบ full option ทำให้การชาร์จทีละก้อนนั้นไม่ทันใจยังไงล่ะครับ แต่เดี๋ยวก่อน!! เจ้าแท่นชาร์จแบบ 4 ก้อนนี้ เค้าไม่ได้มีดีแค่การชาร์จแบตหลายก้อนพร้อมกันเท่านั้นนะครับ เพราะเจ้านี่เค้ามีระบบการปลุกแบตเตอรี่จากโหมด “หลับลึก” (deep sleep) ด้วยครับ นักปั่นบางท่านอาจไม่เคยทราบว่าแบตเตอรี่ของท่านนั้นมีโหมด “ประหยัดไฟ+ช่วยรักษาอายุการใช้งานแบต” อยู่ด้วย ซึ่งแอดได้ยินมาบ่อยครั้งมากครับว่า “แบตเตอรี่หมดเร็ว (อันนี้ได้เล่าให้ฟังไปแล้วใน ep ก่อนๆ) แล้วยังใช้ไม่ทนอีก จอดทิ้งไว้นานหน่อยก็ชาร์จแบตไม่เข้าแล้ว”
-----------------------------------
ที่จริงแล้วแบตเตอรี่ของ AXS เค้ามีโหมดหลับลึกนี้เอาไว้เพื่อช่วยรักษาสถานภาพแบตเตอรี่ไว้ให้เรา ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานครับ ซึ่งเจ้าการหลับลึกนี้ ไม่สามารถถูกทำให้ตื่นด้วยแท่นชาร์จแบบก้อนเดียว (อันที่จริงมีนะ แต่มีขั้นตอนนิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนท้ายครับ) แต่ในเจ้าแท่นชาร์จแบบ 4 ก้อนนี้ เค้าจะมีฟังค์ชั่นนี้มาให้เลยครับ หมายถึงว่า ต่อให้แบตเตอรี่ของตุณจะเข้าโหมดหลับลึกนานแค่ไหนก็ตาม พอเอามาขึ้นแท่นชาร์จ แบตของคุณก็จะสามารถถูกชาร์จไฟเข้าได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 75 เปอเซ็นต์อีกด้วยครับ
-----------------------------------
*สำหรับท่านที่มีแท่นชาร์จแบตแบบก้อนเดียว แล้วแบตของท่านเข้าโหมดหลับลึกไปแล้ว ท่านสามารถทำการปลุกเค้าได้โดยการเสียบปลั๊กแท่นชาร์จเข้ากับไฟบ้าน แล้วทำการถอดและใส่แบตเข้าออกประมาณ 3-4 ครั้ง (หรืออาจจะมากกว่า) จนกว่าสถานะไฟสีแดงจะหายไปครับ หรือถ้าทำแล้วแบตของท่านยังไม่ตื่นจากการหลับไหล แนะนำให้ท่านนำแบตไปให้ร้านตัวแทนจำหน่ายที่มีแท่นชาร์จแบบ 4 ก้อนช่วยแก้ปัญหาให้ครับ และทางร้านจะได้ช่วยเช็คให้ด้วยครับว่า แบตของท่านแค่หลับลึก หรือเสื่อมสภาพไปแล้วครับ