iGPSPORT เปิดตัวอุปกรณ์ GPS รุ่นเรือธงใหม่ที่มาพร้อมคุณสมบัติระดับสูงซึ่งสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาดได้อย่างสมบูรณ์
ตลาดคอมพิวเตอร์จักรยานในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงเป็นอย่างยิ่ง และในแต่ละปีจะมีผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่เวทีโลกในฐานะแบรนด์ผู้ท้าชิงมาตรฐานเดิมของอุตสาหกรรม
iGPSPORT คือหนึ่งในผู้ผลิตรายล่าสุดที่นำเสนออุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ในราคาที่สามารถจับต้องได้
แบรนด์สัญชาติจีนรายนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2012 และมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องวัด GPS สำหรับจักรยาน ไฟจักรยาน สมาร์ตวอทช์ ไปจนถึงเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า สองล้านคนในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 2024 นักปั่นจักรยานเจ้าของแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 4 สมัย คริส ฟรูม (Chris Froome) ได้เข้าร่วมเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ระดับโลกของบริษัท
ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของแบรนด์คือ iGPSPORT BiNavi ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์จักรยานหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ที่รวมคุณสมบัติเด่นของแบรนด์ไว้ในอุปกรณ์เดียว เหมาะสำหรับการนำทางทั้งในเส้นทางท้องถิ่นและพื้นที่ใหม่ ๆ พร้อมความสามารถในการแสดง บันทึก และวิเคราะห์ข้อมูลสมรรถนะของผู้ขี่ได้อย่างครบถ้วน
1. การวิเคราะห์เส้นทางที่รวดเร็วทั้งก่อนและระหว่างการขี่

BiNavi ถูกออกแบบมาสำหรับการปั่นทุกรูปแบบ ตั้งแต่การผจญภัยระยะไกลกว่า 5,000 กิโลเมตร เช่น Race Across America ไปจนถึงการปั่นในเส้นทางใหม่ที่วางไว้ผ่าน Strava หรือ Komoot
ด้วยอัลกอริทึมการนำทางที่พัฒนาโดย iGPSPORT เอง อุปกรณ์สามารถประมวลผลเส้นทางได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 วินาที พร้อมระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn ที่ให้ข้อมูลความสูงอย่างแม่นยำ แสดงจุดเลี้ยวมากขึ้นเพื่อป้องกันความสับสน และระบบวางเส้นทางอัตโนมัติหากออกนอกเส้นทาง
นอกจากนี้ BiNavi ยังมีระบบ Off-track Replanning ที่สามารถคำนวณเส้นทางกลับเข้าสู่เส้นทางหลักได้อย่างรวดเร็วเมื่อผู้ใช้ขี่ผิดทาง หรือเก็บเส้นทางสำรวจไว้บนหน้าจอในกรณีที่ตั้งใจปั่นออกนอกเส้นทาง เพื่อให้สามารถย้อนกลับได้เมื่อพร้อม
ผู้ใช้ยังสามารถสร้างเส้นทางใหม่อย่างรวดเร็วผ่านแอป iGPSPORT ด้วยฟังก์ชัน One-key Navigation
เหมาะกับสายปั่นทริป, เสือหมอบ, จี๊ปกาแฟตามคาเฟ่ หรือมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยคุ้นทาง
2. การจัดการเส้นทางได้อย่างต่อเนื่องทั่วโลก

ฟังก์ชัน “Continue Later” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหยุดและกลับมาปั่นต่อในเส้นทางเดิมได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเส้นทางใหม่ในแต่ละวัน
คุณสมบัตินี้ยังช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลการเดินทางทั้งหมดเป็นไฟล์เดียว เพื่อความสะดวกในการอัปโหลดไปยัง Strava หรือ Komoot
นอกจากนี้ แผนที่ทั่วโลกของ BiNavi ยังได้รับการอัปเดต ทุกไตรมาส โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และสามารถเข้าถึงเส้นทางถนนและทางจักรยานในทุกภูมิภาคทั่วโลก
3. การคาดการณ์เส้นทางและภูมิประเทศล่วงหน้าอย่างชัดเจน

BiNavi ให้สัญญาณเตือนทั้งภาพและเสียงก่อนถึงทางเลี้ยว ตั้งแต่ระยะ 500 เมตรจนถึง 50 เมตร โดยเมื่อเข้าใกล้ระยะ 100 เมตร แผนที่จะทำการซูมอัตโนมัติเพื่อให้มุมมองที่ชัดเจนขึ้น
ฟังก์ชันนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจ โดยเฉพาะในเส้นทางที่คดเคี้ยวหรือทางลงเขาที่มีความชันสูง
นอกจากนี้ BiNavi ยังสามารถแสดงข้อมูลความชันของภูเขาตามมาตรฐานการแข่งขันระดับ Grand Tour พร้อมการแจ้งความชันแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ปั่นสามารถวางแผนแรงและจังหวะการปั่นได้เหมาะสมตลอดเส้นทางขึ้นเขา
เหมาะกับเส้นทางเทคนิค, ทางภูเขา, หรือเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
4. การควบคุมระบบอุปกรณ์เสริมทั้งระบบในเครื่องเดียว

BiNavi รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมผ่าน ANT+ และ Bluetooth และสามารถแสดงข้อมูลได้มากกว่า 160 รายการ เช่น อัตราการเต้นหัวใจ กำลังวัตต์ หรือสถานะแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้า
เมื่อเชื่อมต่อกับไฟท้ายเรดาร์อัจฉริยะ iGPSPORT SR mini ผู้ใช้สามารถควบคุมโหมดการทำงานของไฟผ่านหน้าจอสัมผัสของ BiNavi และรับการแจ้งเตือนเมื่อมีรถยนต์เข้ามาใกล้จากด้านหลัง
สำหรับคนที่ชอบเซ็ตอุปกรณ์ให้ครบ (All-in-One) หรือทีมที่ใช้หลายอุปกรณ์ร่วมกัน ถือว่า “ครบจบ” ในตัวเดียว
ข้อมูลนี้ดัดแปลงมาจาก 4 สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จักรยานของแบรนด์คู่แข่งอย่าง BikeRadar (ฟีเจอร์โฆษณา) สืบค้นจาก https://www.bikeradar.com/advertising-feature/igpsport-binavi-advertorial












